
ดูดไขมันต้นขา (Leg and Thighs Liposuction)
“ดูดไขมันต้นขา” (Legs and Thighs Liposuction) ต้นขาเป็นส่วนที่มักมีการสะสมของไขมันส่วนเกินจำนวนมาก โดยเฉพาะในผู้หญิงซึ่งอาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ที่ได้รับมา หรือการสะสมไขมันจากการรับประทานอาหารประเภท ไขมัน แป้ง น้ำตาล และอาหารรสจัด ทำให้ขาใหญ่ ขาล่ำ ถึงแม้ตัวจะเล็กไม่อ้วนแต่ต้นขาใหญ่ จึงหาตัวช่วยโดยการออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันต้นขา ซึ่งการออกกำลังกายอาจจะทำให้ไม่เห็นผลได้ตามที่ต้องการ และไม่สามารถทำให้ไขมันส่วนเกินที่ต้นขาลดลงได้ ในปัจจุบันจึงมี นวัตกรรมการดูดไขมันสำหรับผู้ที่ต้องการนำไขมันออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้นขาเป็นส่วนที่ลดยากกว่าบริเวณอื่น ดังนั้นการดูดไขมันต้นขา จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการนำไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาออก หรืออยากมีต้นขาเล็กเรียวสวยที่เห็นผลลัพธ์ในทันที
ดูดไขมันต้นขา ส่วนไหนได้บ้าง?
“ต้นขา (Leg and Thighs) คือส่วนที่อยู่เหนือเข่าไปจนถึงสะโพก ซึ่งกรณีผู้ที่มีต้นขาใหญ่ที่เกิดจากไขมันสะสมนั้น สามารถดูดไขมันต้นขาออกได้ โดยสามารถทำได้ทั้ง
ดูดไขมันต้นขาด้านนอก (outer thighs liposuction) จะแก้ปัญหาไขมันสะสมต้นขาส่วนของด้านนอก หรือส่วนที่ปูดออกด้านข้างลำตัว
ดูดไขมันต้นขาด้านใน (inner thighs liposuction) จะแก้ปัญหาไขมันสะสมขาด้านใน หรือเรียกว่าขาเบียดด้านใน จนบางครั้งขาเบียดจนเป็นแผล
ดูดไขมันต้นขาด้านหน้า (front thighs liposuction / Anterior) จะแก้ปัญหาไขมันสะสมต้นขาด้านหน้า หากมองด้านข้างจะมีลักษณะปูดออกมา
ดูดไขมันต้นขาด้านหลัง (back thighs liposuction / Posterior) จะแก้ปัญหาไขมันสะสมต้นขาของส่วนด้านหลัง
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการดูดไขมันบริเวณต้นขาต้องเข้ามาปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อให้ทราบถึงปัญหาของ “ต้นขา” ว่าจะต้องดูดไขมันส่วนไหนบ้าง หรือในบางคนที่มีไขมันสะสมรอบต้นขาก็สามารถดูดไขมันแบบเหมาทั้งขาได้เช่นกัน และนอกจากนี้การดูดไขมันต้นขาสามารถทำร่วมกับการดูดไขมันส่วนอื่นๆ ได้ เพื่อให้ภาพรวมของขานั้นดูสวยงาม รูปร่างดูสมส่วน


ดูดไขมันต้นขา เจ็บไหม?
โดยวิธีดูดไขมันต้นขาในปัจจุบัน เป็นการดูดไขมันต้นขาด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่ชั้นไขมัน โดยยาชาที่ผสมในน้ำเกลือลงไปนั้นจะช่วยลดความเจ็บปวด น้ำเกลือจะไปทำให้ไขมันแตกตัวและดูดไขมันออกได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีการดูดไขมันต้นขาเป็นหลักที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้จนถึงทุกวันนี้ โดยแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ และสอดท่อเข้าไปในบริเวณที่ต้องการที่จะดูดไขมันออก
ดูดไขมัน “ต้นขา” เจ็บไหม? การดูดไขมันต้นขาเจ็บเฉพาะเวลาฉีดยาชา ซึ่งเป็นความเจ็บที่เกิดจากเข็มเพียงเล็กน้อย โดยแพทย์จะฉีดยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำการดูดไขมัน เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว หลังจากนั้นในช่วงแรกไปถึงช่วงกลางๆ ของการดูดไขมัน คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ หรือแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เมื่อดูดไขมันไปได้สักพักหนึ่ง ไขมันบริเวณที่ดูดใกล้หมดแล้ว แต่ยังมีไขมันที่ยังมีติดอยู่บ้างใกล้ๆกับผิวหนังและกล้ามเนื้อ เมื่อชั้นไขมันบางลง บริเวณนี้คนไข้อาจจะมีความรู้สึกเจ็บ หรือเจ็บแปลบๆ บ้างในบางครั้ง และไม่ตลอดเวลา
ดูดไขมันต้นขา ต้องวางยาสลบไหม?
โดยทั่วไปการดูดไขมันต้นขามีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีการดูดไขมันต้นขาแบบดั้งเดิมโดยการใช้ยาสลบ และการดูดไขมันต้นขาด้วยวิธีปัจจุบัน โดยการดูดไขมันต้นขาด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่ชั้นไขมัน ซึ่งทั้งสองวิธีการมีผลข้างเคียงที่ต่างกัน โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ สภาพร่างกายของคนไข้ และจากการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันการเลือกใช้วิธีการใช้ยาชาเฉพาะส่วน เป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากยาชามีผลข้างเคียงน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็ว คนไข้รู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผ่าตัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการหยุดหายใจ สามารถกลับบ้านได้เลยหลังการดูดไขมันเสร็จ เนื่องจากไม่มีสารออกฤทธิ์ที่กดการหายใจตกค้างในร่างกายของคนไข้
ดูดไขมันต้นขา ที่ PHUMA CLINIC ด้วยเครื่อง MicroAire PAL
MicroAire PAL เป็นการใช้วิธีการดูดไขมันโดยการสั่นสะเทือนรอบสูงจากท่อที่ดูดไขมัน เพื่อช่วยในการสลายไขมันให้แตกตัวออกจากกัน โดยไม่ใช้ความร้อน ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ และหลังจากนั้นเครื่องจะดูดไขมันออกมาอย่างอัตโนมัติด้วยระบบสั่น ทำให้ไขมันไหลออกมาได้ง่ายดาย เพราะความถี่ในการสั่นส่งผลให้ดูดไขมันได้ปริมาณมาก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงรอยฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ และช่วยลดการเสียดสีของผิวหนัง รวมไปถึงเนื้อเยื่อเคียงได้
ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเครื่อง MicroAire PAL
- ใช้เวลาน้อยในการดูดไขมัน
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก และดูดไขมันออกได้ง่าย
- เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมันได้ดี
- แผลเล็ก เจ็บน้อย หลังทำการดูดไขมันเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที
- สามารถดูดไขมันบริเวณที่เป็นพังผืดได้ และบริเวณที่ดูดยาก หรือ บริเวณที่เคยดูดมาก่อน
- ไม่เกิดความร้อนสะสม ไม่ทำให้เกิดผิวไหม้ ไม่เป็นคลื่น คล้ายเป็นเปลือกส้ม

ก่อนดูดไขมันต้นขา ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ในปัจจุบันการดูดไขมันต้นขา ถือเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายได้ เปลี่ยนหุ่นให้กระชับ ปรับรูปร่างให้ดูสวยงาม ฉะนั้นผู้ที่สนใจจะดูดไขมันต้นขา ควรศึกษาข้อมูลและควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมัน เพื่อความปลอดภัยและทำให้เกิดผลการรักษาที่ดีกับคนไข้ การเตรียมความพร้อมต้องทำอย่างไรบ้าง
ต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆ ศึกษากระบวนการรักษาทั้งตอนดูดไขมันและหลังดูดไขมันต้นขา
ก่อนจะเลือกดูดไขมัน ควรดูดไขมันกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ และคลินิกที่ได้มาตรฐานมีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น
ก่อนทำการดูดไขมันควรมีการตรวจเลือด เพื่อตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ภาวะการติดเชื้อ การแข็งตัวของเลือด ความสมดุลของสารน้ำในร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
ควรวางแผนการพักฟื้นให้ดี หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลให้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกมาจากปากแผล แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วัน เท่านั้น
ต้องเตรียมพร้อมร่างกายก่อนดูดไขมันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก คนไข้ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเสริมต่างๆ และยากลุ่มแอสไพริน วิตามินอี ยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน แจ้งความกังวลกับแพทย์ว่าเรากังวลส่วนไหน ทำไมถึงอยากดูดไขมันบริเวณนี้ออก เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งแพทย์และคนไข้
ก่อนทำการดูดไขมันต้องแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการแพ้ยาระหว่างการดูดไขมัน ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์

ดูดไขมันต้นขา มีขั้นตอนอย่างไร?
ขั้นตอนการดูดไขมัน สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจดูดไขมันต้นขา ควรศึกษาการเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันและขั้นตอนการดูดไขมันต้นขา ซึ่งจะช่วยป้องกันข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง การดูดไขมัน “ต้นขา” เป็นการนำไขมันสะสมส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย จึงสามารถช่วยแก้ปัญหา ทำให้รูปร่างให้สมส่วน เสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว
Phuma clinic เราจึงมี ขั้นตอนการดูดไขมัน มาให้ผู้ที่จะเตรียมตัวดูดไขมันได้อ่านเพื่อให้ศึกษาก่อนมาดูดไขมันต้นขา ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
1. การฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Tumescent)
แพทย์จะฉีดยาชาเพื่อเปิดแผล ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม. หลังจากนั้นตัวยาชาและอะดรีนาลีนจะเข้าสู่บริเวณส่วนที่จะทำการดูดไขมันต้นขา ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นเทคนิคการดูดไขมันต้นขา ที่จะช่วยลดการสูญเสียเลือด เพิ่มความปลอดภัย และยังช่วยให้ดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้นได้อีกด้วย
2. ขั้นตอนการสลายชั้นไขมันต้นขา
หลังจากใส่ยาชาจนทั่วบริเวณที่จะดูดไขมันแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการสลายไขมันด้วยคลื่นอัลตราซาวน์ เพื่อทำการสลายเซลล์ไขมันให้แตกออกโดยที่ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น เส้นเลือด หรือเส้นประสาท เมื่อไขมันแตกสลายเป็นน้ำหมดแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันออก โดยใช้เครื่องดูดไขมัน
3. ขั้นตอนหลังดูดไขมันต้นขา
เมื่อดูดไขมันต้นขาเสร็จแล้ว แพทย์จะเย็บแผล ซึ่งมีขนาดเล็กเย็บไม่เกิน 2 เข็ม เพราะการดูดไขมันต้นขา แพทย์จะเปิดแผลเล็กมาก หลังการดูดไขมันน้ำเกลือจะไหลออกจากปากแผลไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง โดยแพทย์จะเย็บแผลให้ปิดไม่สนิท เพื่อต้องการให้ระบายน้ำเกลือและยาชาที่เหลือออกจากร่างกาย และยังช่วยลดอาการบวม ยุบบวมได้อย่างรวดเร็ว หลังการรักษาคนไข้ต้องดูแลแผลให้เป็นอย่างดี ควรหลีกเลี่ยงห้ามให้แผลโดนน้ำโดยเด็ดขาดจนกว่าจะตัดไหม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

หลังดูดไขมันต้นขา ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
การปฏิบัติตัวหลังจากการดูดไขมันต้นขา การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันก็เป็นสิ่งสำคัญ และยังสามารถช่วยให้แผลจากการดูดไขมันหายเร็วขึ้น การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันมีข้อปฏิบัติตัวต่าง ๆ ดังนี้
ควรดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 2 ลิตร
แผลเย็บด้วยไหมชนิดต้องตัดออก ต้องดำเนินการตัดโดยแพทย์ โดยจะนัดตัดไหมที่ 1 สัปดาห์
งดการออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด และสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังการดูดไขมันต้นขาได้ 3 สัปดาห์ และออกกำลังหนักได้หลังการดูดไขมันต้นขาได้ 6 สัปดาห์
อาการบวม ช้ำ และอาการปวด จะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่อาการบวมจะเป็นนานมากที่สุด ซึ่งอาจจะนานถึง 3 เดือน
งดดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง รวมไปถึงการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันแผลหายช้า
ควรทำความสะอาดแผล 1-2 ครั้งต่อวัน โดยแผลห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 7 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์
หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อนให้เพียงพอ และขยับร่างกายบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ
งดอาบน้ำหลังจากดูดไขมัน โดยแนะนำเป็นการอาบน้ำในวันถัดไป และควรแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้งก่อนอาบน้ำ
ในช่วง 1 เดือนแรกควรสวมชุดกระชับเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ให้ถอดได้เฉพาะเวลาอาบน้ำ หรือ วันละ 1-2 ชม. ในเดือนที่ 2-3 ให้ใส่วันละ 12 ชม. ทั้งนี้เพื่อให้ผิวหนังมีความกระชับ ได้รูปที่สวยงามสวมหลังจากนั้นจึงค่อยลดลงตามความเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์
รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันทุกวันจนหมด ควรรับประทานยาแก้ปวด และยาลดอาการบวม เมื่อมีอาการเท่านั้น
ทำไมต้องเลือก ดูดไขมันต้นขา ที่ PHUMA CLINIC

Phuma clinic มีแพทย์ผู้ชำนาญประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี ประสบการณ์ทำเคสดูดไขมันมากกว่า 20,000 เคส โดยออกแบบรูปร่างและสัดส่วนที่คุณต้องการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
เรามีเทคโนโลยีในการดูดไขมันระดับแนวหน้า ที่มีประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงน้อย
คลินิกสะอาด ปลอดภัย ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน เครื่องมือทันสมัย
ดูแลลูกค้าต่อเนื่องหลังเข้ารับบริการระดับมืออาชีพ
บริการด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ จริงใจ ตรงไปตรงมา ให้ความชัดเจนกับลูกค้า และให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
การใช้ชุดกระชับ หลังดูดไขมันต้นขา "สำคัญ" อย่างไร?
การดูดไขมันต้นขา ออกมานั้นเป็นการกำจัดไขมันที่สะสมอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยจะอยู่ระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นหลังจากที่เราดูดไขมันต้นขาออกมาแล้ว จึงเกิดช่องว่างภายใต้ผิวหนังเกิดขึ้น ช่องว่างนี้จะมีลักษณะเป็นโพรง เราจึงต้องรีบปิดช่องว่างนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังอยู่ในสภาวะย้วยหรือหย่อนคล้อย
การใส่ชุดกระชับบริเวณต้นขา เป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันที่สำคัญมาก เพราะสัดส่วนของเราจะเข้าที่เร็วขึ้นหรือช้าขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสวมชุดกระชับสัดส่วนด้วย ยิ่งสวมนานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผิวหนังติดกับชั้นกล้ามเนื้อได้เร็วเท่านั้น
ประโยชน์ของชุดกระชับ
ช่วยลดผลข้างเคียงจากการดูดไขมันต้นขา
ลดอาการบวมเขียวช้ำ เพราะชุดกระชับจะทำหน้าที่กดทับในบริเวณที่เลือดออกและทำให้เลือดหยุดไหล ทำให้ลดอาการบวมช้ำได้
ช่วยลดการเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์
ช่วยรีดน้ำเกลือที่ยังเหลือภายในร่างกาย
คนไข้ฟื้นตัวเร็ว ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
ลดการเกิดก้อนแข็งเป็นไต หลังดูดไขมันต้นขา
ดูดไขมันต้นขา ที่ไหนดี
สำหรับใครที่อยากดูดไขมันต้นขา หรืออยากดูดไขมันบริเวณอื่นๆ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนการดูดไขมัน และเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ใครที่อยากดูดไขมันต้นขาที่ PHUMA CLINIC (ภูม่า คลินิก) ดูดโดยแพทย์ผู้ชำนาญมีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี ประสบการณ์ทำเคสมามากกว่า 20,000 เคส สามารถแอดไลน์มาสอบถามได้ที่ @phumaclinic ได้เลย